หลังจากที่ทางที่ได้สำรวจพื้นฐานความเข้าใจ ด้าน "คลาวด์" ซึ่งทีมงานเองเล็งเห็นประโยชน์ ด้าน "คลาวโซลูชั่น" ที่มีต่อกิจการของลูกค้า ไม่ว่าธุรกิจคุณเพิ่งเกิดใหม่หรือเปิดมานาน แต่ด้วยภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน การมีเครื่องมือที่ดีหรือเทคโนโลยีไอทีที่ดีจึงมีความสำคัญ การลงทุนไอทีในช่วงเวลาที่ผ่านมาไม่ง่ายและใช้เวลาและยิ่งกว่านั้นคือใช้ต้นทุนที่สูงมาก ไม่ว่าจะเป็นบุคคลากรไอที HARDWARE อาทิ เซิฟเวอร์รวมไปถึงคอมพิวเตอร์ สิ่งสำคัญ SOFTWARE ก็มีราคาแพง (กรณีมีเรื่องลิขสิทธิ์เข้ามาเกี่ยวข้อง) แต่ด้วยเทคโนโลยีที่เปลี่ยนไป ทำให้วันนี้เรื่องไอทีเป็นเรื่องง่ายสำหรับต่างจังหวัดและรวดเร็วต่อการใช้งาน จึงมีแนวคิดการบริการที่เรียกว่า "คลาวด์ (CLOUD)" เกิดขึ้น
หลายท่านอาจสงสัยว่า คลาวด์ (CLOUD) คืออะไรเหรอ ลองหลับตานึกถึง กลุ่มก้อนเมฆ ลอยอยู่บนท้องฟ้า ที่เราสามารถโยนข้อมูลขึ้นไปไว้ ไม่ว่าจะเป็น ไฟล์, รูปถ่าย, วิดีโอ และดึงมาใช้งานกันได้ทุกที่ทุกเวลา แม้จะอยู่คนละซีกโลก ยกตัวอย่าง Cloud ที่เราคุ้นๆกันมานานและใช้กันแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter, Instagram, Youtube เป็นต้น หรือแม้แต่ E-Commerce ค่ายดังอย่าง Amazon (ไม่ใช่ร้านกาแฟนะค่ะ)
คงจะพอมองเห็นภาพ CLOUD กันบ้างแล้ว แต่ทั้งหมดที่กล่าวมา คือต้องอาศัยการประมวลผลจากเครื่องคอมพิวเตอร์มากมายปกคลุมแบบกลุ่มเมฆ ภายใต้ท้องฟ้าเดียวกันก็คือเครือข่ายอินเตอร์เน็ตนั่นเอง เรียกสั้นๆว่า "CLOUD COMPUTING" โดยแทนสัญลักษณ์ด้วยรูป ก้อนเมฆ (CLOUD) CLOUD COMPUTING (ระบบคอมพิวเตอร์เหนือเมฆ) จึงเป็น แนวคิดในการให้บริการโดยใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานไอที ที่ทำงานเชื่อมโยงกันผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่ทำงานร่วมกันนั้น อาจตั้งอยู่ในห้องเดียวกัน หรือห่างไกลกันคนละภาคหรือทวีปก็ได้ ทำงานผ่านเทคโนโลยีเสมือน (Virtualization) ระบบจึงไม่ได้ถูกจำกัดในเรื่องของสมรรถนะและขีดความสามารถของคอมพิวเตอร์ โดยระบบจะทำงานสอดประสานกันแบบรวมศูนย์ ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางด้านดาต้าเซ็นเตอร์รูปแบบใหม่แห่งอนาคตนั่นเอง ทำไมบริการ คลาวด์คอมพิวติ้ง (CLOUD COMPUTING) จึงได้รับความนิยมในปัจจุบัน ? ลดเวลา : ลดเวลาในการติดตั้งระบบ ลดความซับซ้อน ใช้งานได้ภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง ไม่ต้องเสียเวลาจัดหา Hardware, Software และจัดหาบุคคลากรเฉพาะเรื่องๆ นั้นให้ยุ่งยากอีกต่อไป "Take it Easy" บริหารค่าใช้จ่าย : คุมต้นทุนค่าใช้จ่ายในด้านไอทีได้ เราไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อ Hardware และ Software เองทั้งระบบ และจ่ายตามจริงที่ใช้งานเท่านั้น ลดค่าใช้จ่าย Maintenance ในระบบไอทีแบบเดิมๆ ลดการจ้างงานบุคคลากรด้านไอทีด้วย COST ที่สูง แต่ CLOUD ทำหน้าที่เสมือนการ Outsource งานไอทีแต่ละแขนงแบบ One Stop Service ดังนั้น Cloud จึงเหมาะที่จะเป็นทางเลือกแก่ลูกค้าโดยเฉพาะองค์กรขนาดกลาง หรือ ขนาดย่อม (SME) ลดความเสี่ยง : หลายๆ ธุรกิจลงทุนผิดพลาดด้านไอที SERVER ที่มีขนาดเกินความจำเป็น รวมไปถึงเการลงทุนในบุคคลากรเฉพาะด้านนั้นๆ และปัญหาการ Turn-Over หรือฝึกอบรมพนักงาน
เพิ่มเวลา : เพิ่มเวลาส่วนตัวโดยเฉพาะผู้บริหาร สามารถสร้างสมดุลในชีวิตได้มากขึ้น พักผ่อน ไปทะเลหรือไปเที่ยวต่างประเทศก็ยังสามารถติดต่อกับทีมงานและทำงานได้ โดยไม่ต้องกังวลว่ากิจการจะเสียหาย หรือล้าช้า เพิ่มความคล่องตัว : สะดวกรวดเร็ว ด้วยเทคโนโลยีที่เสมือนทำงานผ่านคอมพิวเตอร์ในออฟฟิต สามารถทำงานได้ทุกที่ ทุกเวลา (ขอเพียงมีอินเตอร์เน็ตเท่านั้นก็ใช้งานได้แล้ว) เพิ่มความยืดหยุ่น : เมื่อขนาดของธุรกิจเปลี่ยนไป ก็สามารถเพิ่มหรือลดจำนวนของทรัพยากรด้านไอที ให้พอเหมาะกับความต้องการของธุรกิจได้ตลอดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพในธุรกิจ : ทุกส่วนของธุรกิจสามารถทำงานได้ดียิ่งขึ้น รวดเร็ว ทันใจ สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า สรุป "คลาวด์" ในที่นี้ ไม่ใช่ ปลาทูทอด แซลม่อน หรือ สเต็กเนื้อสัน ดั่งที่หลายๆ ท่านเข้าใจนะค่ะ ^^
Next Content : รูปแบบการให้บริการ CLOUD COMPUTING
0 Comments
|